การมีผึ้งหลากหลายชนิดสำคัญอย่างไร 

เรารู้กันดีว่าผึ้งมีบทบาทสำคัญในการผสมเกสร แต่สิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้ก็คือ โลกเราจำเป็นต้องมีผึ้งหลากหลายชนิดด้วย แม้ผึ้งป่าจำนวนมากจะอาศัยอยู่โดดเดี่ยวและไม่ผลิตน้ำหวาน แต่ผึ้งเหล่านั้นก็มีคุณค่าไม่แพ้กัน ทั้งต่อระบบนิเวศและความมั่นคงทางอาหารของมนุษย์ความสำคัญของการมีผึ้งหลากหลายชนิด อาจสรุปง่าย ๆ ดังนี้

ผึ้งนักผสมเกษรดอกไม้

ดอกไม้บางชนิดต้องการการผสมเกสรด้วยวิธีพิเศษ ซึ่งไม่ใช่ผึ้งทุกชนิดที่ทำได้

เมื่อเราวาดเกสรดอกไม้ เรามักคุ้นเคยกับเกสรตัวผู้ที่เป็นก้านชูขึ้นไปและมีเกสรตัวผู้อยู่ตรงปลายยอด แต่ไม่ใช่ดอกไม้ทุกชนิดที่มีเกสรเปิดโล่งให้แมลงเข้าถึงได้ง่าย ๆ แบบนั้น

เกสรตัวผู้ของดอกไม้บางชนิดจะซ่อนอยู่ในกระเปาะ ซึ่งมีแค่รูเปิดแค่เล็ก ๆ และต้องใช้วิธีเขย่าเพื่อให้เกสรหลุดออกมา การผสมเกสรแบบพิเศษนี้เรียกว่า ‘การผสมเกสรแบบเขย่า’ (buzz pollination) ซึ่งผึ้งจะใช้กล้ามเนื้อในการสั่นเพื่อให้ละอองหลุดออกมา ผึ้งที่มีความสามารถในการผสมเกสรแบบนี้ส่วนใหญ่เป็นผึ้งเดี่ยว (solitary bee) และผึ้งหึ่ง (bumblebee) ส่วนผึ้งในกลุ่มให้น้ำหวาน (honey bee) มักไม่มีความสามารถนี้

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า การอนุรักษ์ผึ้งโดยการเลี้ยงผึ้งอย่างเดียวยังไม่พอ แต่เราต้องอนุรักษ์ผึ้งป่าที่หากินอิสระในธรรมชาติด้วย

พืชที่ต้องอาศัยการผสมเกสรแบบนี้มีไม่น้อย ที่เราคุ้นเคยกันก็เช่น มะเขือเทศ มะเขือยาว กีวี บลูเบอร์รี ฯลฯ ซึ่งมีงานวิจัยพบว่าหากพืชเหล่านี้ได้รับการผสมเกสรแบบเขย่า จะได้ผลผลิตมากกว่าและน้ำหนักผลผลิตมากกว่าการผสมเกสรโดยผึ้งให้น้ำหวานทั่วไป แม้กระทั่งการใช้เครื่องมือเลียนแบบผึ้งในการสั่นเพื่อให้เกสรหลุดออกมา (artificial mechanical vibration) ก็ยังได้ผลผลิตสู้ผึ้งที่ผสมเกสรแบบเขย่าไม่ได้ (1)

ดอกไม้บางชนิดวิวัฒนาการมาควบคู่กับผึ้งบางชนิด

ผึ้งแต่ละชนิดมีนิสัยในการเก็บเกสรที่ต่างกัน ช่วงเวลาหากินต่างกัน พื้นที่หากินต่างกัน และความชอบดอกไม้ที่ต่างกัน

ผึ้งบางชนิดเรียกว่าเป็น genneralist คือไม่เรื่องมาก ตอมดอกไม้ได้หลากหลาย ในขณะที่ผึ้งบางชนิดเรียกว่าเป็น specialist คือชอบดอกไม้เฉพาะเจาะจง บางชนิดอาจเจาะจงถึงขั้นตอมดอกไม้แค่ในสกุลเดียวหรือสปีชีส์เดียวก็มี ส่วนดอกไม้เองก็เช่นกัน ดอกไม้บางชนิดมีนักผสมเกสรเข้าหาหลากหลาย แต่บางชนิดก็วิวัฒนาการควบคู่กับนักผสมเกสรบางชนิดโดยเฉพาะ

ยกตัวอย่างเช่น พืชในกลุ่มสควอช (ฟักทอง ฟัก แฟง แตง น้ำเต้า) ซึ่งมีงานวิจัยพบว่า ผึ้งสควอช (squash bee; Peponapis limitaris) ทำหน้าที่ผสมเกสรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า เมื่อเทียบกับผึ้งพันธุ์ยุโรปที่นิยมเลี้ยงกันทั่วไป (European honey bee; Apis mellifera) โดยพบว่า ผึ้งสควอชนำพาเกสรได้มากกว่าผึ้งพันธุ์ถึง 4 เท่า และจำนวนดอกไม้ที่เข้าหาก็มากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ (2)

ส่วนในไทย มีการศึกษาพบว่า ผึ้งช่างไม้จิ๋วมรกต (Ceratina smaragdula) คือผู้ผสมเกสรหลักของกล้วยไม้เฉพาะถิ่นซึ่งพบเฉพาะบริเวณเขาหินปูนในจังหวัดตากเท่านั้น นั่นคือดอกเอื้องศรีอาคเนย์ (Sirindhornia monophylla) (3) ดังนั้น หากผึ้งชนิดนี้หายไป ดอกไม้สุดพิเศษนี้ก็อาจประสบปัญหา

ผึ้งผสมเกษตร ให้ระบบนิเวศสมบูรณ์ เพิ่มความหลากหลายในระบบนิเวศ

 

ความหลากหลายทางพันธุกรรมคือหลักประกันความมั่นคง

ในภาษาอังกฤษมีสำนวนที่บอกว่า Don’t put all your eggs in one basket. (อย่าใส่ไข่ทั้งหมดไว้ในตะกร้าใบเดียว) เพราะหากตะกร้านั้นตก ก็อาจไม่เหลือไข่เลย ในทางนิเวศวิทยา ความหลากหลายทางชีวภาพก็สำคัญในลักษณะเดียวกัน นั่นคือเป็นการกระจายความเสี่ยง

ลองนึกถึงระบบนิเวศหนึ่งที่มีผึ้งแค่ชนิดเดียว ถ้าวันหนึ่งเกิดโรคระบาด แล้วผึ้งชนิดที่มีอยู่ไม่มีภูมิต้านทานต่อโรคนั้น นักผสมเกสรหนึ่งเดียวของระบบนิเวศก็จะหายไป ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ นับตั้งแต่ดอกไม้ที่จะไม่ได้รับการผสมเกสรและไม่ติดผล ตามมาด้วยนกและสัตว์ที่กินผลไม้จะไม่มีอาหาร ต่อเนื่องไปยังผู้ล่าที่กินสัตว์เหล่านั้นอีกที

ในทางตรงข้าม หากระบบนิเวศนั้นมีผึ้งหลายชนิด ถ้าวันหนึ่งเกิดโรคระบาดหรือสิ่งแวดล้อมแปรปรวน ก็อาจมีโอกาสที่จะมีผึ้งบางชนิดมีภูมิต้านทานและอยู่รอดเพื่อทำหน้าที่ต่อไปได้ ทำให้ระบบนิเวศมีความยืดหยุ่นและฟื้นตัวเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงได้ดีกว่า (resilience)

หนึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น ในวันที่ผึ้งพันธุ์ยุโรปหลายพื้นที่ทั่วโลกประสบปัญหาปรากฏการณ์รังผึ้งล่มสลาย (Colony Collapse Disorder) ซึ่งผึ้งพันธุ์ตายอย่างปริศนา (สันนิษฐานว่าปัจจัยหนึ่งคือไวรัส) คนเลี้ยงผึ้งบางคนบอกว่า ผึ้งที่เลี้ยงตายไปกว่า 90% แต่ท่ามกลางวิกฤตนั้น เหล่าผึ้งพื้นเมืองส่วนใหญ่ยังอยู่รอดได้ดีและไม่ประสบปัญหาใด ๆ

ความหลากหลายทางชีวภาพจึงถือเป็นเหมือนหลักประกันความอยู่รอดและความมั่นคงของระบบนิเวศ

 

อ้างอิง

1 Cooley, H., Vallejo-Marín, M. (2021) Buzz-Pollinated Crops: A Global Review and Meta-analysis of the Effects of Supplemental Bee Pollination in Tomato. Journal of Economic Entomology 114(2): 505–519. https://doi.org/10.1093/jee/toab009

2 Canto, A., Parra-Tabla,V. (2000) Importance of Conserving Alternative Pollinators: Assessing the Pollination Efficiency of the Squash Bee, Peponapis limitaris in Cucurbita moschata (Cucurbitaceae). Journal of Insect Conservation 4(3):201-208 DOI:10.1023/A:1009685422587

3 Srimuang, K., Banziger, H., Pedersen H., A., and Watthana, S. (2013) Carpenter bees and the orchid of a princess: natural pollination of Sirindhornia monophylla in Thailand. Taiwania 58(3): 163–170.

 

Picture of เมธิรา เกษมสันต์ (เมย์)

เมธิรา เกษมสันต์ (เมย์)

นักเขียนอิสระ เจ้าของเพจ 'Nature Toon การ์ตูนสื่อความหมายธรรมชาติ' สนใจด้านการสื่อสารความรู้สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติวิทยาแบบเข้าใจง่าย มีผลงานหนังสือคือ สายใยที่มองไม่เห็น, สายใยใต้สมุทร (1-2), Wetland แดนมหัศจรรย์, The Last 14 : การผจญภัยของโลมาอิรวดีน้อย และเป็นผู้วาดภาพประกอบหนังสือ 'เรื่องเล่าชาวชะนี'

บทความน่ารู้

10 ผึ้งสุดแปลกทั่วโลก

ชวนรู้จัก… ผึ้งสุดแปลก 10 ชนิด

เมื่อเอ่ยชื่อ ‘ผึ้งแร้ง’ (vulture bee) หลายคนก็คงเดาอาหารของผึ้งนี้ได้ นั่นคือไม่ใช่ดอกไม้ แต่เป็นซากสัตว์ จนได้ชื่อเล่นอีกชื่อว่า ‘ผึ้งซอมบี้’
ความพิเศษยังไม่หยุดแค่นั้น เพราะเมื่อน้องบินกลับไปที่รัง ก็จะสำรอกโปรตีนที่กินเข้าไปออกมา

Read More »
ผึ้งมีกี่ชนิดทั่วโลก สปีชีย์ของผึ้ง

ผึ้งทั่วโลกมีกี่สปีชีส์ ?

เมื่อพูดถึงผึ้ง หลายคนก็อาจนึกถึงแมลงสีเหลืองสลับดำ มีเหล็กใน ตอมดอกไม้ อยู่กันเป็นรังรูปหกเหลี่ยม ภายในรังมีน้ำผึ้ง แต่จริง ๆ แล้ว วิถีชีวิตของผึ้งมีหลากหลายกว่านั้นมาก

Read More »